สี่อัศวินแห่งหายนะ - สี่อัศวินแห่งหายนะ นิยาย สี่อัศวินแห่งหายนะ : Dek-D.com - Writer

    สี่อัศวินแห่งหายนะ

    เรื่องที่ตกรอบในโครงการแฟนตาซี หน้าใหม่ครับ มีเวอร์ชั่นเรื่องสั้น แต่ทำเป็นเรื่องยาวกำลังคิดอยู่

    ผู้เข้าชมรวม

    668

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    668

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 มี.ค. 54 / 12:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
         เรื่องของสี่อัศวินจากสวรรค์ ผู้มีหน้าที่ทำลายล้าง เรื่องที่ตกรอบในโครงการแฟนตาซี หน้าใหม่ครับ มีเวอร์ชั่นเรื่องสั้น แต่ทำเป็นเรื่องยาวกำลังคิดอยู่
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      สี่อัศวินหายนะ

      วิวรณ์บทที่ 6:15

                      เมื่อพระเมศโปดกทรงแกะตราดวงที่หนึ่งในเจ็ดดวงนั้นออกแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็นและได้ยินเสียงสัตว์หนี่งตัวร้องว่า

      “มาเถอะ” มีม้าขาวตัวหนึ่ง และท่านขี่ม้านั้นถือธนู และได้รับพระราชทานมงกุฎ แล้วท่านขี่ม้าไปอย่างมีชัยและเพื่อได้ชัยชนะ

      เมื่อพระองค์ทรงแกะตัวตราดาวตัวที่สองนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็แลเห็นและดูเถิดข้าพเจ้าก็ได้ยินสัตว์ตัวที่สองร้องว่า

      “มาเถอะ” และมีม้าอีกตัวหนึ่งเข้ามาเป็นม้าสีแดงสด ผู้ที่ขี่ม้าตัวนี้ได้รับพระราชานุญาติให้นำสันติสุขไปจากโลกนี้ เพื่อให้คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน และท่านผู้นี้ได้รับพระราชทานดาบใหญ่เล่มหนึ่ง

      เมื่อพระองค์ตราแกะดวงที่สามนี่ ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงสัตว์ตัวที่สองร้องว่า

      “มาเถอะ” ม้าดำตัวหนึ่งเข้ามา และท่านที่ขี่ม้านั้นถือตราชู แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงเหมือนกับดังออกมาจากท่ามกลางสัตว์ทั้งสี่ว่า

      “ข้าวสาลีราคาทะนานละหนี่งเดนาริอัน ข้าวบารลีสามทะนานต่อหนี่งเดนาริอัน แต่เจ้าอย่าทำอันตรายแก่น้ำมันและน้ำองุ่น”

      เมื่อพระองค์ทรงแกะตราตัวที่สี่นั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ยินสัตว์ตัวที่สี่ร้องว่า

      “มาเถอะ” แล้วข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด ม้ากะเลียว(เขียวชีด)ตัวหนึ่งเข้ามา ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้นมีชื่อว่ามัจจุราช ผู้ที่นั่ง และแดนคนตายก็ติดตามมาด้วย พระองค์ทรงให้ทั้งสองมีอำนาจผลาญโลกได้หนี่งในสี่ส่วน ด้วยคมดาบ ด้วยความอดยาก ด้วยโรคระบาด และด้วยสัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน

                      หลายคนบอกว่าบทความนี้เป็นอุปมาเกี่ยววันสิ้นโลกและยังเป็นอุปมาเกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์ในยุคปัจจุบันนั้นก็ไม่ผิดนัก เพราะสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ไม่จะเป็น สงคราม ความอดยาก โรคระบาด และความตาย หากแต่ว่าสี่อัศวินนั้นมีตัวตนจริง ! พวกเขาเป็นอมมนุษย์ที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมาเพื่อลงทัณฐ์มนุษย์หาก มนุษย์ทำความชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัยสี่อัศวินนั้นประกอบด้วย

      อัศวินม้าขาว เจ้าแห่งการล่อลวงและเป็นผู้นำทัพเข้าสู่สงคราม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้เวทมนต์สายโจมตีและป้องกัน และการยิงธนู

      อัศวินม้าแดง นักรบสุดเจ้าเล่ห์ที่ประสงค์ให้มนุษย์ฆ่าฟันกันเอง ภายนอกไร้พิษภัยแต่ภายในเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว เป็นนักรบเชี่ยวชาญด้านเวทมนต์ทำให้เห็นภาพหลอน เวทต์โจมตี การใช้ดาบและที่เหนือกว่าใครคือมีความฉลาดมากที่สุดในสี่อัศวิน

      อัศวินม้าดำ ผู้ครอบงำจิตใจและทรราชแห่งความมืด จิตใจไม่ปกติแต่ก้าวนำความคิดของทุกคนเสมอ เชี่ยวชาญด้านเวทมนต์ ควบคุมจิตใจ ดูดพลัง อ่านใจคนได้ แต่จะสามารถอ่านได้เฉพาะใจของคนชั่วเท่านั้น และยังมีตาชั่งเป็นอาวุธในการวัดความดีความเลวของคนคนนั้น มีขวานเป็นอาวุธอีกอย่างหนึ่งด้วย

      และสุดท้าย อัศวินม้าสีเขียว เพชรฆาตสังหารที่มีกำลังมหาศาล มุ่งหวังที่จะมอบความตายให้เหยื่อด้วยความแม่นยำ เชี่ยวด้านการใช้ภูตผี และวิญญาณ ใช้เคียวเป็นอาวุธ และยังพละกำลังมหาสารอีกด้วย มีความสามารถเห็นอาขัยของมนุษย์ว่าคนนั้นจะตายเมื่อไหร่

      หน้าที่หลัก ๆ ของสี่อัศวินคือการทำลายล้าง ไม่ว่าจะเป็นตอนเกิดหายนะที่อียิปต์ในสมัยโมเสส น้ำท่วมโลก เมืองโสดมถูกทำลาย สี่อัศวินเป็นผู้นำหายนะเหล่านั้นมาทั้งนั้น  ไม่เคยมีใครที่เห็นเขาแล้วรอดชีวิตเลยสักคนเดียวอาจมีผู้รอดชีวิตบ้างในบ้างเหตุการณ์แต่ว่า ไม่สามารถเล่าอะไรให้ใครฟังได้ ปกติสี่อัศวินจะอยู่ในบนสวรรค์และลงมาจากสวรรค์ต่อเมื่อได้รับคำสั่งเท่านั้น เมื่อมีคำสั่งใหม่ก็มาถึง ให้ทำลายหมู่บ้านหนึ่งที่ไม่นับถือพระเจ้าแต่นับถือเทพนอกรีต และสังหารชาวคริสต์ไปจำนวนมาก อีกทั้งยังผิดบาปมากมายเหลือเกิน สี่อัศวินควบม้าลงมาจากสวรรค์ทันที

      อัศวินม้าขาวเป็นชายร่างสูงใหญ่สวมเกราะสีขาว มีมงกุฎสีขาวบนหัวเขาเป็นคนมีใบหน้าเข้มและดูจริงจัง ผมยาวสีดำสนิท ผิวขาว เขามีดวงตาสีดำสนิท มีธนูและแล่งใส่ศรสะพายอยู่

      อัศวินม้าแดงเป็นชายร่างสูง หน้าตาดูแล้วใจดี เหมือนกับไม่มีพิษมีภัยอะไรกับใคร ผมสั้น ดำเป็นมัน มีตาสีดำ สวมเกราะที่สีแดง สะพายดาบไว้ที่หลัง

      อัศวินม้าดำ ชายร่างผอม หน้าตาดูแล้วดุร้าย ผมยุ่ง สวมเกราะสีดำ มีดวงตาเหมือนคนเสียสติ คือมันดูล่องลอยเหมือนกับคิดอะไรฟุ่งซานอยู่ตลอดเวลา ในมือตาชั่งอยู่ และมีขวานด้ามยาวสะพายหลังอยู่

      อัศวินม้าเขียวชีด เป็นชายร่างใหญ่ สวมเสื้อคลุมสีเขียว มีฮู้ค หน้าตาเข้ม ในมือถือเคียว หัวโล้น

      เมื่อเหล่าอัศวินไปถึงหมู่บ้านเป้าหมาย ในคืนนั้นมีงานเลี้ยงฉลองกัน หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนกับจะสงบเงียบ และคนในหมู่บ้านกำลังมีความสุขกัน เหล่าอัศวินขณะที่กำลังจะทำลาย ก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาขว้างเอาไว้ ทำเอาเหล่าอัศวินประหลาดใจมันเป็นชายร่างสูงใหญ่ ไว้หนวดเครา ผมยาว สวมหมวกไวกิ้ง สวมเกราะในมือมีดาบหันเล่มหนึ่ง และมีถุงมือเหล็กประดับด้วยอัญมณีสีแดง ฟ้า เขียว เหลือง ตาของเขาเป็นสีแดงกร่ำ ทั้งสี่มองดูเจ้านั่น

                      “ไอ้นี่เป็นมารนี่ แล้วมาขว้างเราทำไมวะ” ม้าเขียวชีดพูด ทำไมกันมารซึ่งปกติแล้วมารจะไม่ยุ่งกับการทำงานของเขาและตรงกันข้ามมารจะกลัวพวกเขา แต่ไอ้นี่เหมือนกับว่าจะขว้างสุดชีวิต

                      “ถอยไปดีกว่าไอ้มาร นี่เป็นหน้าที่ของเรา” ม้าดำพูด

                      “ข้ามศพข้าไปก่อน”

                      “อยากได้ก็จัดให้” ม้าเขียวซีดควบม้าไปทันที เคียวที่พร้อมจะกระชากวิญญาณของไอ้มารบังอาจตรงหน้ากำลังจะตัดชีวิตของมารตรงหน้าแล้ว

                      “โหมดต่อสู้”

      ดาบหักกลายเป็นดาบมันรับมือเคียวได้อย่างรวดเร็ว ไม่งั้นหัวของมารนั้นขาดไปแล้ว ม้าแดงมองม้าเขียวซีดต่อสู้กับมารนั่นก็ประหลาดใจไม่น้อย เพราะมารนั้นรับมือได้อย่างสูสี

                      “มันเป็นพวกไหนกันวะ ถึงได้สู้กับคนขี่ม้าได้อย่างสูสีแบบนี้”

      ม้าดำมองการต่อสู้แล้วเกิดคันไม้คันมือขึ้นมา มันเอาขวานด้ามยาวออกมาจากหลังและควบม้าเข้าไปร่วมวงด้วย  เจ้ามารเห็นมันยิงไฟออกมาจากถุงมือทันที ทำเอาม้าดำขยันม้าหนีแทบไม่ทัน

                      “เวทมนต์พลังธาตุ งั้นเหรอเนี่ยดีล่ะน่าสนุกนะ” ม้าแดงมองดูเหตุการณ์แล้วก็นึกสนุก ควบม้าไปร่วมวงด้วยพลังไฟถูกยิงออกมา แต่ว่าถูกม้าแดงสลายไปทันทีทำเอาเจ้ามารนั้นตกใจไม่น้อย ม้าแดงยิงพลังเวทมนต์ใส่เจ้ามารนั้นมันเห็นภาพหลอน วิชาภาพหลอนของม้าแดงทำให้คนคลุ้มและเข่นฆ่ากันเองมาหลายต่อหลายครั้งและไม่เคยทำให้เขาผิดหวังแต่คราวนี้กลับกลายเป็นว่า เจ้ามารนั้นใช้เวลาไม่นานก็หลุดออกมาจากภาพหลอนได้ สร้างความประหลาดใจตื่นเต้นให้กับม้าแดงเป็นอย่างมาก

                      “จิตแข็งใช้ได้นี่ ดีล่ะ”

      ม้าแดงชักดาบออกมา และเขาโจมตีทันที เจ้ามารนั่นยังรับมือได้ แต่ก็อ่อนแรงไปแยอะเพราะว่า ต้องรับมือถึงสามคน แม้ตอนนี้ร่างกายจะเหนื่อยอ่อนเพลียเต็มทนแต่มันก็ยังรับมือได้เป็นอย่างดีทำเอาสามอัศวินแทบไม่มีช่องให้โจมตีเลยสักนิด ทำเอาเหล่าอัสวินนึกประหลาดใจมันไปเอาพลังมาจากไหนกันแน่ เพราะถ้าดูจริง ๆ แรงยืนของมันก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว ม้าขาวเห็นท่าไม่ดีแล้ว เขาเอาธนูออกมาเล็งและเตรียมตัวยิง

                      “หลบ !

      เสียงของม้าขาวดังขึ้นมา ธนูถูกยิงออกมาทันที มารนั้นกำลังจะรับมือแต่ธนูกลับแตกออกมาเป็นนับร้อยดอกและแทงร่างของมารนั่นพรูไปทั้งตัว มันล้มลงไปแล้ว ม้าดำกำลังจะตัดหัวของมารนั้น เจ้ามารนั่นสิ้นฤทธิ์แล้ว แต่ว่า

                      “อย่านะ”

      มีเด็กกลุ่มหนึ่งวิ่งมายังดีที่ม้าดำหยุดขวานไว้ทัน ไม่งั้นหัวเด็กนั้นขาดแล้ว ทำเอาอัศวินที่เหลืองงงั้นและมีชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งมาขว้างอีก พวกอัศวินงงไปหมดแล้ว

                      “ม้าดำแกเอาตาชั่งมาวัดความดีความเลวของมันสิฉันชักสงสัยแล้วล่ะ” ม้าแดงพูดทันที ม้าดำเอาตาชั่งออกมาวัดจิตใจของมารนั่น เขาต้องตะลึงเพราะมารนี้ มีความดีสูงกว่าความชั่วมาก

                      “อะไรกันเนี่ย มิน่าฉันอ่านใจมันไม่ออก”

                      “ตาชั่งเสียหรือเปล่าวะ” ม้าเขียวชีดถาม

                      “ไม่ตาชั่งนี่ไม่เคยพลาดแกก็รู้”

                      “ทำไมแกมาขว้างวะเนี่ย” ม้าแดงถามทันที

                      “ชาวบ้านที่นี่เคยให้ขนมปังฉันกินก้อนหนึ่งและให้ที่พักกับฉัน ฉันต้องตอบแทน” สี่อัศวินทำหน้าไม่ถูกแล้ว นี่อะไรแค่ขนมปังก้อนเดียวทำให้มารถึงกับจะยอมสละชีพเลยเหรอ มารตัวนี้ทำไมใจมันสะอาดนักและชาวบ้านพวกนี้อีกก็ยอมเสี่ยงมาช่วยมาร พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่านี้มันอะไรกัน แต่ว่าที่แน่ ๆ ที่นี่ยังไม่สมควรถูกทำลายแน่ ๆ สี่อัศวินมองไปที่ท้องฟ้า

                      “ข้าแต่พระบิดา โปรดทรงให้โอกาสหมู่บ้านนี้เถิด เพราะคนที่นี่ยังเยียวยาได้” ทั้งสี่พูดพร้อมกัน

                      “ข้าจะให้โอกาสพวกเขาได้กลับตัว พวกเจ้ากลับมาได้แล้ว”

      สี่อัศวินมองหน้ากัน เขาคิดว่าโลกเป็นอย่างไงกันแน่ปกติเขาแค่มีหน้าที่แค่ลงมาทำลายเท่านั้น ไม่เคยใช้ชีวิตบนโลกเลยสักครั้ง เขาเกิดความอยากรู้ว่าตกลงมนุษย์เป็นอย่างไงกันแน่โลกเป็นอย่างไงกันแน่ถึงได้เปลี่ยนมารตนหนึ่งได้ ทั้งสี่พูดพร้อมกันราวกันนัดกันไว้

                      “พวกข้าพเจ้า อยากเรียนรู้โลกก่อน ขอรับ ไว้ได้คำตอบแล้วจะกลับไป”

                      “เราให้เจ้าตามนั้น”

      แสงสว่างหายไป สี่อัศวินมองไปที่มารนั่น ม้าขาวได้ใช้พลังรักษาแผลให้

                      “แกชื่ออะไรวะไอ้มาร” ม้าแดงถาม

                      “มอลคอท”

                      “พวกแกโชคดีแล้วล่ะมนุษย์พระเจ้าให้โอกาสพวกแกแล้ว ใช้ชีวิตใหม่ซะ หวังว่าเราจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว”

                      สี่อัศวินควบม้าไปทันที เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองจะไปไหนกันแน่ โลกนี้ดูแปลกใหม่สำหรับพวกเขา เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมากมาย ในความแปลกใจก็มีความรู้สึกดีแฝงอยู่ภายในเสมอ ขณะที่ควบม้าอยู่นั้นก็ไปหลงอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แต่ทำไมคนที่นี่ดูเศร้าเหมือนกับกำลังหวาดกลัว 

                      “คนพวกนี้กลัวอะไรกันเนี่ย” ม้าเขียวชีดพูดขึ้นมา

                      “เหมือนจะกลัวคนใส่ชุดอัศวินนะ”

                      “แกรู้ได้ไงม้าแดง” ม้าดำถาม

                      “ก็แกไม่เห็นพวกผ่านไปตรงไหนชาวบ้านจะดูหวาดกลัวเสมอเลย ดูนั่นสิ”

                      มีคนกลุ่มใส่ชุดอัศวินท่าทางเป็นอันธพาล พวกนี้พอใจอะไรก็หยิบใส่กระเป๋าหมดและทำลายข้าวของชาวบ้าน พวกชาวบ้านได้แต่มองด้วยความแค้นใจ ม้าดำเริ่มโกธร ม้าแดงเห็นจึงรีบห้าม

                      “ใจเย็นรอดูไปก่อน”

      มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงลากของรถม้า สี่อัศวินหันไปมอง พวกเขาเห็นพวกทหารกำลังจับร่างของผู้หญิงสี่คน ใส่กรงพวกเธอนั่งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว มีชายคนหนึ่งวิ่งตาม เขาเป็นชายวัยกลางคนร่างท้วมวิ่งมาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง

                      “อย่าเอาลูกของข้าไปนะ ได้โปรดเถิด”

                      “นี่แกกล้าขัดถือท่านเคาท์บาโบเหรอ”

      พวกทหารถีบหน้าของชายคนหนึ่ง สี่อัศวินควบม้า มาดักหน้าเอาไว้

                      “พวกแกเป็นใครวะ อย่าเสือกมาขว้างรู้มั้ยเนี่ย พวกเรากำลังจะเอาของกำนัลไปส่งให้เคาท์บาโบ”

                      “ม้าดำดูจิตของไอ้พวกนี้สิ”  ม้าขาวพูด

      อัศวินม้าดำเอาตาชั่งออกมา ด้านเลวมีน้ำหนักมากกว่าด้านดี

                      “ไอ้พวกอยู่ไปรกโลก” อัศวินม้าดำเอาขวานศึกออกมาเข้าโจมตีอย่างบ้างคลั่ง

                      “เดี๋ยวม้าดำ”

                      “อะไรแกจะห้ามข้าเหรอไอ้ม้าเขียวชีด”

                      “เปล่าข้าเอาด้วย” ม้าเขียวชีดควบม้าตามไปสบทม

                      “เอาด้วยมั้ย” ม้าขาวถามม้าแดง

                      “ไม่ล่ะปล่อยมันสองคนมันบ้าไปเถอะ”

      ใช้เวลาไม่นานเหล่าทหารก็หนีไป ม้าแดงเอาดาบฟันโซ่ที่กรงออกมา มีทหารอีกกลุ่มเข้ามา

                      “รู้มั้ยว่าพวกข้าเป็นใครกันหา”

                      “จะรู้กับแกมั้ยล่ะ แกยังไม่รู้ตัวเองเลย”

                      “ไอ้นี่วอน เอางี้พวกแกทิ้งม้าและของมีค่าเอาไว้ข้าจะไม่ถือโทษ เผื่อจะฟากตัวแกกับท่านเคาท์ด้วยนะ” เจ้านั่นพูดจบก็มีลูกธนูพุ่งปักเข้าที่หัวจัง ๆ มันตกม้าไปทันที นายทหารอีกคนเห็นท่าไม่ดีเลยสั่งว่า

                      “ฆ่ามันซะชิงม้ามา”

      แต่เหมือนหันไปเห็นทหารของตนเองเป็นศพไปหมด แล้วดูจากสภาพเป็นการฆ่ากันเอง

                      “ไหนวะลูกน้องแก”

                      “คือ....ว่า” นายทหารเห็นท่าไม่ดีเลยรีบควบม้าหนีไป แต่ม้าขาวยิงธนูตามไปทันที มันปักเข้าที่หัวของเจ้านั่นเต็ม ๆเมื่อจัดการพวกนั้นเสร็จ ชาวบ้านก็ออกมาแต่ว่าสายตามี่มองพวกเขาเหมือนกลับดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย

                      “นี่รู้มั้ยทำอะไรลงไป”

      ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา สี่อัศวินประหลาดใจมาก กับท่าทีของชาวบ้าน

                      “อะไรข้าพึ่งช่วยพวกท่านนะ” ม้าดำพูดอย่างไม่พอใจ

                      “เราต้องส่งส่วยให้กับเคาท์บาโบไม่งั้นคนในหมู่บ้านของเราจะถูกสังหารไปทั้งหมด”

                      “อะไรกันยอมให้มีเรื่องอำหิตแบบนี้ในหมู่บ้านเหรอ” อัศวินม้าดำโกธรมาก และกำลังจะเหวี่ยงขวานเข้าใส่ พวกชาวบ้านแต่ว่า

                      “ใจเย็นม้าดำพวกเขาแค่กลัว” ม้าขาวรีบห้ามเอาไว้ ม้าดำจึงชะงัก และวางอาวุธลง

                      “เอาไงดี” ม้าดำถาม

                      “ให้ไอ้ม้าแดงจัดการเถอะ”

      ม้าแดงพยักหน้า เขาลงจากหลังม้า และพูดขึ้นว่า

                      “ทำไมท่านถึงได้ยอมให้มันทำแบบนี้ ไม่คิดต่อต้านงั้นเหรอ”

                      “พวกเราเคยลองแล้วแต่ไม่เป็นผล เดี๋ยวมันจะเอาคนมาจัดการพวกเรา พวกเราไปขอให้ทางการช่วยแต่ไม่ประโยชน์หรอกพวกเขาไม่สนใจพวกเราหรอก”

                      “งั้นจงอย่ากลัวความกลัวที่เกาะกินใจของท่านได้หลุดออกไปแล้ว เมื่อพวกเรามา พอหรือยังลูกหลานที่ต้องส่งไปตายมันพอหรือยัง ทำไมต้องรอให้ใครมาช่วย ท่านช่วยตัวเองมีสองมือสองเท้าเหมือนกัน และอีกอย่างตอนนี้มีพวกเราอยู่ด้วยไยท่านต้องกลัวด้วยล่ะ”

                      พวกชาวบ้านมองหน้ากัน แต่มีเสียงแย้งขึ้นมา

                      “พวกท่านจะทำอะไรได้”

                      “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เห็นแล้วนี่พวกเราทำอะไรได้ เชื่อเถอะพวกเราอย่าไปหวาดกลัวกับไอ้พวกคนเลวพวกนั้นลุกขึ้นสู้เถอะ พวกเราสู้”

                      “แต่พวกเราไม่มีอาวุธนะ”

                      “ของทุกอย่างในโลกนี้เป็นอาวุธได้หมด อีกอย่างที่นี่บ้านท่านพวกมันจะไปรู้จักดีกว่าท่านได้ไงกัน พวกท่านจะเอาด้วยหรือ เปล่า”

      พวกชาวบ้านเริ่มคิด และในที่สุดทุกคนก็ร้องว่า

                      “สู้ !

      เสียงเฮดังขึ้นมา ม้าแดงหันมามองทุกคน

                      “ลิ้นของมันนี่ล่ะเป็นอาวุธที่ร้ายที่สุดแล้วสำหรับไอ้ม้าแดง” ม้าขาวว่า

                      ที่ปราสาทของเคาท์บาโบ มันเป็นชายร่างท้วม หัวโล้นมันรู้เรื่องราวของเจ้าสี่คนนั้นก็ โกธรเป็นอย่างมาก เพราะเท่ากับว่ามันโดนลูบคม

                      “เตรียมกำลังให้พร้อมพวกเราจะไปสั่งสอนมันล้างบางหมู่บ้านของมันโทษฐานที่ขัดขืนข้า”

                      “ท่านครับ”

      ชายร่างสูงใหญ่สวมเกราะเดินออกมา

                      “มีอะไรซันก้า”

                      “ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือเองหรอกครับเดี๋ยวข้าจะจัดการให้”

      พวกสี่อัศวินกำลังเตรียมชาวบ้าน ให้พร้อมแต่ว่า มีเสียงม้าร้องขึ้น ซันก้ามาพร้อมกับลูกน้องกลุ่มใหญ่

                      “แกบังอาจคิดหักหลังพวกเรา ข้าขอเตือนนะ พวกแกจะไม่ได้ตายดีแน่ ๆ”

                      “งั้นเหรอ” ม้าดำเอาขวานออกมา พวกทหารเข้าโจมตีทันที อัศวินม้าดำเหวี่ยงขวานไปมาอย่างรวดเร็ว ทหารโดนคมขวานตาเสียชีวิตไปจำนวนมาก

                      “น่าสนุกดีนะไอ้หนู” ซันก้าเอาค้อนออกมา มันทุบค้อนมาอย่างรวดเร็ว ม้าดำเอาขวานรับแต่แรงกระแท็กทำให้เขาถึงกับแขนชา

                      “ถอยไปม้าดำไอ้นี่ข้าเอง”

      ม้าเขียวชีดพูดและวิ่งมาทันซันก้าฟาดค้อนมา ม้าเขียวชีดเอาค้อนรับเอาไว้ทันเกิดแรงปะทะทำให้เกิดเสียงดัง ทุกคนหูแทบแตกม้าเขียวชีดปะทะอยู่ ทั้งสองมีพละกำลังที่ใกล้เคียงกันทำให้ ม้าเขียวชีดกับซันก้าปะทะกันอย่างดุเดือด ม้าแดงเห็นท่าไม่ดีกลัวการรบจะนานเกิน ม้าขาวก็เช่นกัน ม้าขาวเลยยิงธนูไปทันทีธนูปักตาข้างหนึ่งของซันก้า ม้าเขียวชีดได้จังหวะตัดหัวของซันก้าทันที

                      “ทำไมใช้วิธีลอบกัดล่ะหา พวกแกเป็นอัศวินหรือเปล่า”

      พวกทหารของซันก้าตกใจมาก

                      “นี่เป็นต่อสู้เอาชีวิตเฟ้ย และจัดการคนเลว ๆ อย่างแก ข้าไม่เลือกวิธีหรอก”

      พวกลูกน้องมองหน้ากัน มีทหารคนตะโกนว่า

                      “อย่าไปกลัวมัน ไอ้พวกลอบกันแบบนี้ไม่น้ำยาหรอก”

      พวกทหารวิ่งเข้ามาโจมตีทันที  ม้าดำกับม้าเขียวชีดกำลังจะต่อสู้อีกแต่ว่า ม้าแดงกลับพูดว่า

                      “อย่ามาเปลื้องแรงกับไอ้พวกแบบนี้เลย ฉันจัดการเอง” ม้าแดงปล่อยแสงออกมา พวกมันที่โดนแสงของม้าแดงก็เกิดคลั่งไล่ฆ่ากันเอง อย่างบ้าคลั่งเลือดไหลสาดไปทั้งตัว จนเหลือเพียงคนเดียวม้าแดงเดินมาฟันหัวมันขาดกระเด็น

                      “ไม่เห็นต้องเปลื้องแรงเลยว่ะ ใช้สมองก็พอ”

      พวกชาวบ้านเห็นภาพการต่อสู้ก็ชักกลัว ๆ ม้าแดงพอจะเดาออก

                      “จงอย่ากลัวเราเลย พวกเราเป็นพวกของท่านให้พวกมันกลัวเราก็พอ” ม้าแดงประกาศ แม้จะเป็นประโยคง่าย ๆแต่พวกชาวบ้านก็เชื่อกันทุกคน

                      “ลิ้นไอ้ม้าแดงพึ่งได้เสมอนะ” ม้าขาวพูด     

                      สี่อัศวินให้ชาวบ้านเตรียมพร้อมเอาไว้ มีหญิงสาวสี่คนเดินมาพร้อมกับตะกร้าอาหาร ทั้งสี่จำได้ว่าคือเด็กสาวที่ถูกขังกรงเมื่อกี้นี้

                      “มีอะไรเหรอ”

                      “คือพวกเราเอาอาหารมาให้น่ะ มันเก่าไปหน่อยนะค่ะแต่เรามีแค่นี้ล่ะ”

      อาหารคือขนมปังดำเก่า ๆ สี่ก้อน แต่ทั้งสี่ก็รับมากินโดนไม่รังเกลียดอะไรเลย

                      “ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยชีวิตพวกเรา”

      และพวกเธอก็เดินไปสี่อัศวินมองตามหลัง ไป

                      “นี่ล่ะมั้งความรู้สึกที่ไอ้มารนั่นรู้สึก”

      ม้าดำจับขวานขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าการต่อสู้จะเกิดขึ้นแล้ว ม้าขาวควบม้าขึ้นไปที่สูง มีชาวบ้านเตรียมหินไว้จำนวนมาก ม้าแดงไปแอบซุ่มในชายป่า แต่ม้าดำ กับม้าเขียวชีดไม่ได้แอบตรงไหนกับยืนอยู่กลางหมู่บ้าน

      กองทัพอัศวินสวมเกราะ ควบม้ามาแล้ว โดยการนำของบาโบ อัศวินม้าขาวยิงธนูไปทันที ธนูแตกออกมาเป็นหลายดอกราวกับห่าฝน สังหารพวกของบาโบไปจำนวนมาก และเหล่าทหารยังเจอกับดักที่ซ่อนไว้อีกด้วย แต่ยังมีบางส่วนเขามาได้ แต่ว่า อัศวินม้าแดงใช้เวทมนต์ทำให้พวกมันเห็นภาพหลอนและฆ่ากันเอง บาโบควบม้ามาด้วยความโกธร มันหลบธนูและกับดักได้ แต่ว่าคมขวาน เคียวของม้าดำ และม้าเขียวซีดถูกเหวี่ยงมัน ตัดคอม้าของบาโบ บาโบตกจากม้าไม่เป็นทางสี่อัศวินมารวมตัวตรงหน้าของบาโบ ม้าดำเอาตาชั่งมาวัด ความดีมันไม่มีเลย แต่ว่ามีอย่างที่ม้าดำเห็นในจิตใจของมัน

      “มันขายวิญญาณให้ซาตาน มันไม่ใช่คนแล้ว”

      “นึกแล้วเชียวว่ามันแปลก ๆ” ม้าแดงชักดาบออกมา

      “งั้นอย่าได้ปราณี” ม้าขาวพูดพลางยิงธนูทันที

      ม้าดำ ม้าแดง ม้าเขียวซีดควบม้าเข้าโจมตีแต่ว่า มันหลบการโจมตีได้ทั้งหมด และมันมองทั้งสี่ด้วยสายตากระหายเลือด

      “ข้าไม่สนหรอกนะว่าพวกแกเป็นใคร แต่พวกแกจะต้องตายวันนี้ล่ะ”

      มันกลายร่างทันทีกลายเป็นปีศาจร่างใหญ่โต ร่างเป็นสีแดงมีแขนขายาวมาก ในปากเต็มไปด้วยเขี้ยว  มันเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง สี่อัศวินควบม้าหลบทันที บาโบวิ่งไปกระชากต้นไม้ออกมาและเอามาฟาดต่างกระบองสี่อัศวินควบม้าหลบแทบไม่ทัน ม้าขาวกระหน่ำธนูไปแต่ แต่มันเอาต้นไม้มารับเอาไว้ และกระแท็กต้นไม้มา ม้าแดงควบมาและเอาดาบฟันสวนต้นไม้นั้น มันโดนฟันขาดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่สามารถใช้เป็นอาวุธได้อีก ม้าแดงฟันดาบหมายจะดัดหัวของมันแต่มันเอาปากรับดาบเอาไว้ ม้าแดงพยามดึงดาบออกมา แต่ไม่หลุดมันชกร่างของม้าแดงกระเด็นไปทั้งคนทั้งม้าและพุ่งดาบมาทางม้าแดงดาบแดงหลบได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่จับดาบอีกครั้งหนึ่ง ม้าดำฟาดขวานไปบนตัวของมัน แต่ผิวของมันแข็งมากดาบทำอะไรไม่ได้

      “ถอยออกมาก่อน”

      ม้าเขียวชีดตะโกนมันตั้งสมาธิและก็เห็นจุดอ่อนของเจ้าบาโบ

      “เล่นงานมันตรงข้อต่อ”

      ม้าขาวยิงธนูไปโดนข้อต่อตรงแขนมันร้องลั่น ม้าแดงฟันเข้าที่รักแร้แขนของมันขาดไปทันที ม้าดำกับม้าเขียวชีดตัดขาของมันทั้งสองข้างมันล้มลงไปเลือดไหลอาบอาวุธจ่อตรงหน้าของพวกมัน

                      “เดี๋ยวก่อน อย่าฆ่าข้า ข้ามีข่าวมาแลก”

                      “ข่าวบ้าบออะไร ไม่สนเฟ้ย” ม้าดำพูดพลางจะเอาขวานสับร่างของบาโบ แต่ม้าแดงห้ามเอาไว้

                      “ให้มันพูดฉันก็สงสัยเหมือนกัน ไอ้ตัวแบบนี้ออกจากนรกมานี่ได้ไง”

                      “ลูชิเฟอร์กำลังจะขึ้นมาจากนรก มาจัดการชำระล้างโลก”

                      “ว่าอะไรนะ” สี่อัศวินตกใจมาก

                      “เรื่องจริงพวกเรากำลังเตรียมตัว ให้พร้อมโลกกำลังพินาจแม้แต่พวกแกก็จะไม่รอด”

                      “จะบอกอะไรให้พวกเราคือ สี่อัศวินจากสวรรค์ไม่กลัวคำขู่ของแกหรอก”  

                      “ว่าอะไรนะ”

                      “ไปบอกเจ้านายแกในนรกว่า พวกเราจะรอจัดการอยู่บนโลกลงขึ้นมาสิ พวกเราจะส่งกลับไป” ม้าดำพูดทันที 

      สี่อัศวินมองหน้ากันและพยักหน้าพวกเขาสังหารบาโบทันที

                      “เอาไงต่อดี” ม้าดำถาม

                      “เราคงกลับสวรรค์ยังไม่ได้หรอก ตามหาลูชิเฟอร์ให้เจอก่อนดีกว่าแล้วจัดการส่งลงนรกซะ” ม้าขาวพูด

      สี่อัศวินพยักหน้าพร้อมกันและควบม้าทันที พวกชาวบ้านมองจนลับตาไป         

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×